วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2558

วันนี้อากาศดีฝนบ่อยๆส่งผลให้เด็กๆๆฉี่รดที่นอนมากกว่าปกติ  เด็กที่มีปัญหาในเรื่องการฉี่รดที่นอนเป็นประจำ ส่วนใหญ่จะสามารถหยุดพฤติกรรมได้ในช่วงระหว่างอายุ 3 ขวบถึง 10 ขวบ ถ้ายิ่งพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเคยมีปัญหานี้มาก่อน ลูกก็อาจจะหยุดพฤติกรรมนี้ได้ในเวลาไล่เลี่ยกับอายุของพ่อหรือแม่ ที่สามารถหยุดพฤติกรรมนั้นได้เช่นกัน พยายามใช้คำพูดที่นิ่มนวลอันนี้ครูควรแนะนำ  และพยายามบอกให้เด็ก รู้จักฝึกอดกลั้นไม่ปัสสาวะบ่อยๆ โดยพยายามยืดช่วงเวลาให้นานขึ้น ในแต่ละครั้งที่เข้าห้องน้ำ แต่ถ้าลูก(นักเรียน)ไม่ยอมก็ไม่ต้องไปบังคับ ทำบ่อยๆบอกบ่อยๆค่อยๆฝึก

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2558

                            วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน  2558

                      เริ่มต้นวันแรกของการทำงาน   วันนี้เหตุการณ์การจัดการเรียนการสอนไม่มีปัญหาอะไร  แต่ในช่วงเวลาพักทานอาหารกลางวัน มีเด็กร้องไห้ไม่ยอมทานข้าว ครูได้เข้าไปป้อนเด็กก็เอาแต่ร้องไห้ จะเก็บถาดข้าวอย่างเดียว  ครูจึงนำนมมาให้เด็กทานหนึ่งกล่องแล้วพาเด็กไปแปรงฟัน
                     จากเหตุการณ์นี้สาเหตุที่จะทำให้เด็กไม่ยอมทานข้าว

             1. เกิดจากเด็กเข้ามาใหม่ยังปรับตัวไม่ได้
             2. อาหารไม่ถูกปาก
             3. เกิดจากไม่ได้รับการฝึกฝน

                  แนวทางการแก้ปัญหา


        การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กปฐมวัยควรให้เด็กลงมือปฏิบัติจริงหรือร่วมทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย และจัดสภาพแวดล้อมเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน    เสริมสารอาหารที่ครบถ้วนนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือระหว่างครูกับผู้ปกครองอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขนิสัยในการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะในชีวิตประจำวัน














บันทึสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558


                เหตุการณ์ในวันนี้พบว่าเด็กฉี่รดกางเกงบ่อยมาก สาเหตุที่เด็กฉี่รดกางเกง
            1. เป็นช่วงที่วัยพัฒนาการ5ปีแรกที่ยังควบคุมการขับถ่ายได้ไม่ดี
            2. ทางครอบครัวไม่ได้ฝึกสอนเด็กเป็นขั้นตอนหรือไม่ได้ฝึกสอนเด็กเลย
            3. ห่วงเล่น สนุกจนลืมตัว  ขาดการควบคุมตัวเอง
            4. ฝึกไม่สม่ำเสมอ

               แนวทางการแก้ไขปัญหา
    
          1. กะระยะเวลาคราวๆที่เด็กควรจะเข้าห้องน้ำ โดยสังเกตลักษณะของเด็ก
          2. ถามความรู้สึกว่าปวดฉี่หรือไหม เพื่อหัดให้เด็กจับความรู้สึกได้ทันก่อนจะถ่าย
          3. ฝึกสอนสม่ำเสมอ ถึงแม้เด็กยังทำไมีได้ก็ให้เด็กรับผิดชอบของใช้ที่ไม่สะอาดด้วย  คอยให้กำลังใจอยู่ข้าวๆ

บันทึสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558

วันอังคารที่  16  มิถุนายน  2558

                       เหตุการณ์ในวันนี้ปกติดีค่ะ  ช่วงที่เด็กนอนหลับครูได้จัดทำเอกสารเด็กเสร็จ พอมีเวลาจึงได้แกนทิชชูมาผลิตเป็นโมบายตกแต่งห้องเรียน  เป็นอีกชิ้นงานที่ทำจากวัสดุเหลือใช้นำกลับมาใช้ประโยชน์ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลา เพราะทำง่ายเด็กๆชอบมาก  หวังว่าการจัดทำโมบายในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนำไปต่อยอดนะค่ะ
              

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันที่ 26มิถุนายน 2558

          วันนี้เป็นจันทร์ำทุกอย่างดำเนินไปอย่างช้าๆๆเพราะคนมากงานเสร็จเร็วแต่ไม่สวย ทำให้ครูเดินดูเด็ก  เด็กบ้างคนก็สนุก ไม่ตั้งใจทำงานที่มอบให้มั่วแต่คุยกันและหยอกล้อกันทำให้ผลของงานออกมาไม่น่าพอใจนัก ครูร้องเพลงช่วยขณะทำงานและเดินไปรอบๆๆจึงทำและทำให้ผลงานออกมาดีขึ้นจะเห็นได้ว่าเด็กๆๆต้องการการเอาใจใส่การดูแลอย่างใกล้ชิดพูดกับเค้าและบอกสอนไปในตัวพร้อมกับท่าทางการแสดงออกซึ้งความรักกับพวกเค้า

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน  2558
                   การจัดกิจกรรมในวันนี้เด็กให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในช่วงการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเด็กๆชอบมากแสดงท่าทางประกอบเพลงได้  ร้องเพลงได้ การจัดกิจกรรม เสริมประสบการณ์ วันนี้ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับแปรงฟัน มีแก้ว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ฟันจำลอง เด็กๆรวมทำกิจกรรมด้วยความสนใจ
   จากการสังเกตการใช้สื่ออุปกรณ์ที่แปลกใหม่ทำให้เด็กมีความสนใจในการทำกิจกรรมมากขึ้น

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558


กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ทั้ง 6 กิจกรรมในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่าตะแบงในวันนี้
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 
             เด็กๆ ร้องเพลงและเคลื่อนไหวตามเพลงที่คุณครูพาร้อง เช่น เพลงหนอน เพลงเซเว่น เพลงช้าง และเพลงสวัสดี
กิจกรรมเสริมประสบการณ์
             เด็กๆ เรียนรู้เรื่องสิ่งต่างๆ รอบตัว และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การเข้าห้องนำ้ที่ถูกสุขลักษณะ. การแปรงฟัน ฯลฯ
กิจกรรมสร้างสรรค์และเสรี
             เด็กๆ ระบายสี
กิจกรรมกลางแจ้ง
             เด็กๆ เล่นเครื่องเล่นสนามอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
กิจกรรมเกมการศึกษา
             เด็กๆ ต่อภาพตัดต่อภาพห้องนำ้ - ห้องส้วม เป็นกลุ่ม ครูคอยช่วยเหลือกลุ่มที่ทำไม่ได้ ให้เด็กที่สามารถทำได้ช่วยสอนเพื่อนที่ยังทำไม่ได้

เด็กๆ นอนพักผ่อนตอนกลางวัน พอตื่นนอนล้างหน้า ทาแป้ง ดื่มนม รอท่านผู้ปกครองมารับกลับบ้านคะ

ปัญหาและอุปสรรค
          1. เด็กบางคนยังไม่คุ้นเคยต่อสภาพแวดล้อม
          2. เด็กบางคนยังไม่ค่อยกล้าแสดงออก

แนวทางแก้ไข
          1. ให้ความอบอุ่นแกเด็กเพื่อให้เด็กไว้ใจ และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในศูนย์ฯ เร็วขึ้น
          2. เน้นการสอนให้เด็กแสดงความคิดเห็น เพื่อให้เด็กกล้าแสดงออก
        



   




วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันอังคารที่ 23 มิถุนายน2558

                           วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2558
ปัญหาที่พบ  คือ  เด็กไม่ยอมเก็บของเล่นหลังจากที่เล่นเสร็จทุกครั้งคุณครูก็จะพาเด็กๆเก็บของเล่น จากการสังเกตการเล่นของเด็กส่วนใหญ่พบว่าเด็กนำของเล่นมาเล่นแล้วไม่เก็บของเล่นเมื่อถึงเวลาเก็บของเล่นจะวิ่งหนี ไม่ช่วยกันเก็บ

วิธีแก้ปัญหา  เล่นของเล่นแล้วไม่เก็บเข้าที่คุณครูต้องพูดซ้ำๆ ย้ำบ่อยๆ และร้องเพลงเก็บของเข้าที่พร้อมกัน จนกระทั่งเด็กทุกคนช่วยกันเก็บของเล่นเข้าที่จนเสร็จ แล้วคุณครูจะแกล้งพูดว่า ถ้าใครไม่ช่วยเก็บของเล่น จะไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเล่นด้วย ครูก็ไม่รักเพราะเป็นคนขี้เกียจคนที่ขยันจะได้ขึ้นชั้นอนุบาลแล้วได้ไปเที่ยวกับคุณครู คนที่ไม่เก็บไม่เหมือนเพี่อนคนอื่นเขา ต้องให้ออกไปอยู่นอกห้องคนเดียว เด็กแกก็จะกลัวไม่มีเพื่อน กลัวครูไม่รัก เพราะฉะนั้นเวลาเล่นของเสร็จทุกครั้งทุกคนก็ช่วยกันเก็บเข้าที่ ไม่รกรุงรังจัดห้องเรียนให้เอื้อต่อการเล่นของเด็ก  มีชั้นวางตะกร้าเพื่อให้เด็กใส่ของเล่น ครูควรชักชวนเด็กให้เล่นมากกว่าการบังคับ ฝึกให้เด็กแสดงความคิดหรือชวนกันคิด ดึงดูดการเก็บของเล่นให้สนุกด้วยการช่วยกันเก็บ

       

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558
                  วันนี้ได้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียนทั้งหมด 6 คน ผู้ปกครองเด็กได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลดีมากค่ะ  ทางครูจะนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุงและพัฒนาผู้เรียน ครูและ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ให้น่าอยู่ น่าเรียนต่อไปค่ะ
      

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558

                            วันนี้ได้ออกไปเยี่ยมบ้านเยี่ยมบ้านนักเรียนทั้งหมด 5คน ในการไปเยี่ยมบ้านครั้งนี้ได้รับทราบปัญหาของเด็กทั้ง 5คน ผู้ปกครองจะทำอย่างไรเด็กถึงจะยอมทานข้าวจากที่รับข้อมูลจากผู้ปกครองดิฉันได้ให้คำแนะนำกับผู้ปกครองว่า สาเหตุที่เด็กไม่ยอมทานข้าว. 

     สาเหตุที่เกิด

-ปริมาณอาหารมากเกินไป

 

-เด็กไม่ชอบรับประทานสิ่งนั้น เช่น ผัก ไม่ควรบังคับ แต่ควรดัดแปลงอาหารนั้นในรูปแบบต่างๆแล้วชักชวนให้เด็กลองรับประทาน

 

-เด็กขาดความอยากรับประทานอาหารเนื่องจากรับประทานขนมหรือนมระหว่างมื้อแล้ว

 

-เด็ก มีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร เช่น ถูกบังคับป้อนจนเจ็บปาก หรือบรรยากาศที่ไม่ดีในการรับประทานอาหาร เช่น ถูกดุหรือถูกตี เป็นต้น

 

-ขณะที่รับประทานอาหารเด็กมีความเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือมีปัญหาทางอารมณ์

 

           แก้ไขสาเหตุที่เกิดจากพ่อแม่หรือคนเลี้ยงดู

 

-ลด ความกังวลใจลงบ้างเกี่ยวกับการรับประทานอาหารของเด็ก เช่น กังวลว่าเด็กจะมีน้ำหนักตัวน้อยหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เพราะความกังวลนั้นส่งต่อไปให้เด็กได้ทำให้มีผลต่อการไม่รับประทานอาหารได้

 

-ให้ เด็กได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเองเกี่ยวกับการรับประทานอาหารบ้าง เช่น ในเด็กที่เริ่มหยิบอาหารชิ้นเล็กลงหรือเอาช้อนใส่ปากได้ จะหกเลอะเทอะบ้างก็ไม่เป็นไร


        สรุป

 

ปัญหาเด็กกินอาหารยากเป็นปัญหาที่พบบ่อย ดังนั้นการดูแลและป้องกันปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้เด็กดีขึ้นได้ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ เช่น ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวและปัญหาด้านจิตใจ เป็นต้น เช่น เก็บกด ขี้กังวล

 

     

 


บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันที่ 18 มิถุนายน 2558

              วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2558

                    วันนี้เด็กๆได้ร่วมทำกิจกรรมหน้าเสาธงเด็กคุยกันเสียงดังและเล่นกันขณะที่ทำกิจกรรม
สาเหตุ
-เด็กอาจไม่เคยทำกิจกรรมเช่นนี้มาก่อน
-เด็กยังไม่มีสมาธิ
-เด็กชินกับพฤติกรรมการเล่นอาจยังไม่ชินกับการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
การแก้ปัญหา
ก่อนทำกิจกรรมหน้าเสาธงควรเพิ่มกิจกรรมเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กๆ เช่น การเล่านิทาน การเคลื่อนไหวตามจังหวะเสียงเพลง

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558

                       วันนี้ได้รับแจ้งข่าวกับผู้ปกครองมาเล่าเรื่องราวหลังจากเด็กกลับจากโรงเรียน หลานสาวได้ไปเล่นกับเพื่อนบ้านข้างๆ  พอเด็กกลับมาผู้ปกครองได้เห็นสิ่งผิดปกติขึ้นกับเด็กคือผมด้านหน้าเหมือนโดนตัด ผู้ปกครองนำเรื่องนี้มาเล่าเพราะอยากให้ครูได้ช่วยเตือนเด็กเกี่ยวกับการเล่นของมีคม
                     การแก้ไขปัญหา ในช่วงเวลาที่จัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์   ดิฉันได้นำเรื่องราวที่ผู้ปกครองเด็กมาเล่าให้เด็กฟัง  ดิฉันได้เสริมให้เด็กๆได้รู้ถึงโทษของการเล่นของมีคมเช่นการเล่นกรรไกรแล้วนำมาตัดผมตัวเองหรือของเพื่อน 
                       จากเหตุการณ์ที่ขึ้นสรุปได้ว่า  การดูแลความปลอดภัยของเด็ก ต้องดำเนินไปควบคู่กับการอิสระในการเรียนรู้ การส่งเสริมให้เด็กรู้จักโทษของการเล่นของมีคมและควรมีสื่อการเรียนการสอนเกี่ยวเรื่องการใช้สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น


บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2558



              ปัญหานักเรียนแกล้งเพื่อน

พฤติกรรมทางกายหรือวาจาที่ก้าวร้าว ข่มขู่คนอื่น โอ้อวด โดยมักบอกว่าผู้อื่นจะมาเอาเปรียบ หรือข่มเหงตนจึงต้องโต้เถียง ต่อต้าน มักแสดงความคิดเห็นดูถูกคนอื่นหรือสิ่งที่สังคมนิยม มักพบร่วมกับปัญหาการเรียน
          อาจไม่แสดงพฤติกรรมระหว่างอยู่ในห้องเรียนเหล่านี้ให้ครูเห็น บางครั้งเด็กจะรวมกลุ่มกันแกล้งเพื่อ หรือแกล้งคนเดียว หรือชกต่อยต่อสู้ พบว่าผู้ปกครองหลายคนก็สนับสนุนให้เด็กใช้กำลังกับผู้อื่นด้วย

สาเหตุ 
          1. ต้องการความสนใจจากเพื่อนและผู้ใหญ่

          2. อยากรู้สึกว่ามีอำนาจ โดยการแสดงพลังจากการที่คุมคนอื่นได้

          3.เป็นการเรียนรู้จากครอบครัวหรือที่อื่นว่า การจะอยู่ในกลุ่ม จะต้องเหนือกว่า คนอื่นเท่านั้น

          4.บางรายเด็กกลัวว่าคนอื่นจะทำตนก่อน จึงต้องรีบชิงแสดงออกก่อน


          ผลเสียของพฤติกรรม
          1. ทำให้เพื่อนหรือทั้งห้องเรียนอยู่ในความ กลัว 
          2. คนรอบข้างต้องงดใช้สิทธิส่วนตัวหลายอย่าง 
          3.ทำให้บรรยากาศห้องเรียนตึงเครียด พร้อมจะเกิดความรุนแรง เนื่องจากเด็กคนอื่นอาจมีความรู้สึกอยากแสดงออกกลับคืนบ้าง เพราะคนที่มีพฤติกรรมคนนี้หรือกลุ่มนี้มีอำนาจและได้ความสนใจ เด็กบางคนที่อ่อนแออาจไม่อยากมาโรงเรียน
          4. ครูรู้สึกว่าตนเองไม่มีอำนาจจะจัดการเด็กได้ เนื่องจากเด็กอาจแข็งแรงกว่าครูแล้ว

การแก้ไขและช่วยเหลือง
          1. ใช้วิธี “ล่วงเวลา” กับเด็กที่ชอบขู่คนอื่น โดยการกักให้อยู่เย็นหลังเลิกเรียน ครูเองก็จะมีเวลาคิดว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป บอกให้เด็กทราบผลเสียที่อาจจะตามมา แต่อย่าบอกบทลงโทษทั้งหมด
          2. อย่าสรุปว่าเด็กที่ชอบรังแกคนอื่นจะ แกร่ง หลายครั้งที่พบว่าเด็กมีจิตใจอ่อนแอมากแต่ทำเป็นแข็งแกร่งเพื่อเป็นการชดเชย
          3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีแบบส่วนตัวกับเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งเด็กมักไม่เคยได้รับมาก่อน
          4. แสดงความอ่อนโยนแทนที่จะแสดงความโหดร้าย เด็กพวกนี้มักโต้ตอบกับคนก้าวร้าว เป็น แต่ไม่รู้จะสู้กับความอ่อนโยนอย่างไร อย่าแสดงความโหดร้าย เป็นตัวอย่างในการแก้ปัญหากับเขา 
          5. ช่วยเด็กออกจากวงจรร้าย ที่เด็กพวกนี้อาจถูกท้าทายจากจากสิ่งรอบตัวอยู่เรื่อยๆ ด้วยการสอนให้เด็กเหล่านี้รับมือกับคำท้าว่า “ครูไม่อนุญาตให้ฉันสู้”
          6. สร้างบทบาทใหม่ให้เด็กเกเรเป็นเด็กที่มีประโยชน์กับส่วนรวม

          7. คุยกับเด็กตรงๆถึงความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองและการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ หาทางออกให้เด็กได้ปลดปล่อยพลังงานอย่างเหมาะสม อย่างกีฬา 
    


บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2558

                            การส่งเสริมพัฒนาการเด็กควรจะพัฒนาให้ครบทั้งสี่ด้าน ได้แก่ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา  นอกนั้นผู้ดูแลเด็กควรดูแลเรื่องสุขภาพของเด็ก การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทุกวันนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเด็ก เด็กนำ้หนักตำ่กว่าเกณฑ์  เพราะเด็กจะไม่ชอบทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ผู้ดูแลเด็กจึงคอยปลูกฝังให้เด็กทานอาหารที่เป็นประโยชน์
                     เหตุการณ์ในวันพุธที่ 10 มิถุนายน  2558ในวันนี้ปัญหาที่เกิดในช่วงเวลาทานอาหารกลางวัน มีเด็กคนหนึ่งร้องไห้ง้อแงไม่ยอมทานข้าว ดิฉันเข้าไปซักถามทำไมหนูไม่ทานข้าว  เด็กบอกว่าไม่หิว ดิฉันได้อธิบายว่าถ้าเด็กไม่ทานข้าวจะปวดท้องนะค่ะ เด็กไม่ยอมทานข้าวเอาแต่ร้องไห้อย่างเดี่ยว  ดิฉันจึงออกมายืนดูห่างๆสักพักเด็กก็หยุดร้อง เหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันรู้ว่าสถานการณ์บ้างอย่างเราอาจจะดูอยู่ห่างๆเพื่อให้เด็กมีความรู้สึกว่าไม่โดนบังคับ
                       จากเหตุการณ์ข้างต้นสรุปได้ว่า การที่เราควรอธิบายเหตุผลสิ่งที่จะเกิดให้แก่เด็กอย่างเข้าใจแล้วเราควรคิดหาแนวทางแก้ปัญหา  ควรจัดทำสื่อส่งเสริมให้เด็กชอบทานข้าว   บอกถึงประโยชน์ของการทานอาหารและโทษของการไม่ทานอาหาร

บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2558



                       ในการดูแลเด็กในทุกวันของผู้ดูแลเด็กนั้นมิใช่เพียงสอนให้ความรู้ในด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว ผู้ดูแลเด็กควรเอาใจใส่และส่งเสริมพฤติกรรมให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตนเอง มีนำ้ในแก่เพื่อนๆ ปลูกฝั่งให้เด็กได้คิดเป็นตั้งแต่งเล็ก หาสิ่งโน้มน้าวจิตใจ ให้มีความน่าสนใจในการเรียนการสอนและทำกิจกรรมต่างๆ
                      จะเห็นได้จากเหตการณ์วันอังคารที่  9 มิถุนายน  2558   วันนี้ระหว่างทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะมีปัญหาที่เกิดขึ้นเด็กไม่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อน วิ่งไปวิ่งมา  ดิฉันได้คิดหาวิธีจะทำอย่างไรให้เด็กได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อน ลองให้เด็กร้องเพลงแมงมุมและทำท่าประกอบตามครู เด็กโตจะสนใจทำตามครูแต่น้องๆยังไม่สนใจ ดิฉันร้องเพลงอีกรอบหนึ่ง คราวนี้เด็กสนใจทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนด้วยความสนุก
                    จากเหตุการณ์ข้างต้นนี้สรุปได้ว่าในการกิจกรรมการเรียนการสอนผู้ดูแลเด็กจะต้องศึกษาถึงแนวทางในการแก้ปัญหาและส่งเสริมพัฒนาการเด็กนั้นควรวิเคราะห์เด็กรายบุคคล มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หาสิ่งเร้าโน้มน้าวจิตใจเด็กหรือการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย


              




บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558

             พฤติกรรมของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถูกอบรมสั่งสอนจากสถาบันหลักที่เรียกว่าครอบครัวที่แตกต่างกัน  จึงทำให้บุคลากรหรือผู้ดูแลเด็กต้องหาวิธีในการสร้างสัมพันธ์และความสามัคคีแก่เด็ก   รู้จักแบ่งปันกันและทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้   ผู้ดูแลเด็กควรมีกลยุทธ์คิดหาวิธีให้เด็กรู้จักมีนำ้ใจแบ่งปันผู้อื่น 
            
               จะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ได้พบในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558 ขณะที่รอรับเด็กจากผู้ปกครองได้ให้เด็กที่มาถึงแล้วเล่นรอเพื่อนที่ยังไม่มา   จากนั้นเกิดเหตุการณ์เด็กได้ทะเลาะกันแย่งของเล่นกัน ดิฉันได้เข้ามาห้ามแล้วบอกให้เด็กแบ่งของเล่นให้เพื่อนเล่นบ้าง  แต่เด็กไม่ยอมแบ่งของเล่นให้เพื่อนเล่นด้วย ดิฉันหยิบของเล่นไปเก็บไว้ที่เดิมและได้อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมคุณครูต้องเก็บของเล่น  เพราะเด็กๆไม่รู้จักแบ่งปันของเล่นให้เพื่อนเล่นด้วย เด็กๆไม่รักกัน   หลังจากนั้นเด็กๆเล่นด้วยกันอีกไม่ทะเลาะกันเลย

               เหตุการณ์ข้างต้นสรุปได้ว่าการที่เราอธิบายเหตุผลให้เด็กฟังแล้ว เราควรแนะนำให้เด็กได้รู้และกระทำตามในสิ่งที่เราได้ชี้แนะ  ควรเล่านิทานคุณธรรม จริยธรรม สอดแทรกส่งเสริมให้เด็กมีน้ำใจและจิตใจที่ดีขึ้น