วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2558
วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2558
เริ่มต้นวันแรกของการทำงาน วันนี้เหตุการณ์การจัดการเรียนการสอนไม่มีปัญหาอะไร แต่ในช่วงเวลาพักทานอาหารกลางวัน มีเด็กร้องไห้ไม่ยอมทานข้าว ครูได้เข้าไปป้อนเด็กก็เอาแต่ร้องไห้ จะเก็บถาดข้าวอย่างเดียว ครูจึงนำนมมาให้เด็กทานหนึ่งกล่องแล้วพาเด็กไปแปรงฟัน
จากเหตุการณ์นี้สาเหตุที่จะทำให้เด็กไม่ยอมทานข้าว
1. เกิดจากเด็กเข้ามาใหม่ยังปรับตัวไม่ได้
2. อาหารไม่ถูกปาก
3. เกิดจากไม่ได้รับการฝึกฝน
แนวทางการแก้ปัญหา
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กปฐมวัยควรให้เด็กลงมือปฏิบัติจริงหรือร่วมทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย และจัดสภาพแวดล้อมเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน เสริมสารอาหารที่ครบถ้วนนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือระหว่างครูกับผู้ปกครองอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขนิสัยในการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะในชีวิตประจำวัน
ช
บันทึสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558
บันทึสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558
วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันที่ 26มิถุนายน 2558
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558
การจัดกิจกรรมในวันนี้เด็กให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในช่วงการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเด็กๆชอบมากแสดงท่าทางประกอบเพลงได้ ร้องเพลงได้ การจัดกิจกรรม เสริมประสบการณ์ วันนี้ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับแปรงฟัน มีแก้ว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ฟันจำลอง เด็กๆรวมทำกิจกรรมด้วยความสนใจ
จากการสังเกตการใช้สื่ออุปกรณ์ที่แปลกใหม่ทำให้เด็กมีความสนใจในการทำกิจกรรมมากขึ้น
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ทั้ง 6 กิจกรรมในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่าตะแบงในวันนี้
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
เด็กๆ ร้องเพลงและเคลื่อนไหวตามเพลงที่คุณครูพาร้อง เช่น เพลงหนอน เพลงเซเว่น เพลงช้าง และเพลงสวัสดี
กิจกรรมเสริมประสบการณ์
เด็กๆ เรียนรู้เรื่องสิ่งต่างๆ รอบตัว และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การเข้าห้องนำ้ที่ถูกสุขลักษณะ. การแปรงฟัน ฯลฯ
กิจกรรมสร้างสรรค์และเสรี
เด็กๆ ระบายสี
กิจกรรมกลางแจ้ง
เด็กๆ เล่นเครื่องเล่นสนามอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
กิจกรรมเกมการศึกษา
เด็กๆ ต่อภาพตัดต่อภาพห้องนำ้ - ห้องส้วม เป็นกลุ่ม ครูคอยช่วยเหลือกลุ่มที่ทำไม่ได้ ให้เด็กที่สามารถทำได้ช่วยสอนเพื่อนที่ยังทำไม่ได้
เด็กๆ นอนพักผ่อนตอนกลางวัน พอตื่นนอนล้างหน้า ทาแป้ง ดื่มนม รอท่านผู้ปกครองมารับกลับบ้านคะ
ปัญหาและอุปสรรค
1. เด็กบางคนยังไม่คุ้นเคยต่อสภาพแวดล้อม
2. เด็กบางคนยังไม่ค่อยกล้าแสดงออก
แนวทางแก้ไข
1. ให้ความอบอุ่นแกเด็กเพื่อให้เด็กไว้ใจ และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในศูนย์ฯ เร็วขึ้น
2. เน้นการสอนให้เด็กแสดงความคิดเห็น เพื่อให้เด็กกล้าแสดงออก
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันอังคารที่ 23 มิถุนายน2558
วิธีแก้ปัญหา เล่นของเล่นแล้วไม่เก็บเข้าที่คุณครูต้องพูดซ้ำๆ ย้ำบ่อยๆ และร้องเพลงเก็บของเข้าที่พร้อมกัน จนกระทั่งเด็กทุกคนช่วยกันเก็บของเล่นเข้าที่จนเสร็จ แล้วคุณครูจะแกล้งพูดว่า ถ้าใครไม่ช่วยเก็บของเล่น จะไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเล่นด้วย ครูก็ไม่รักเพราะเป็นคนขี้เกียจคนที่ขยันจะได้ขึ้นชั้นอนุบาลแล้วได้ไปเที่ยวกับคุณครู คนที่ไม่เก็บไม่เหมือนเพี่อนคนอื่นเขา ต้องให้ออกไปอยู่นอกห้องคนเดียว เด็กแกก็จะกลัวไม่มีเพื่อน กลัวครูไม่รัก เพราะฉะนั้นเวลาเล่นของเสร็จทุกครั้งทุกคนก็ช่วยกันเก็บเข้าที่ ไม่รกรุงรังจัดห้องเรียนให้เอื้อต่อการเล่นของเด็ก มีชั้นวางตะกร้าเพื่อให้เด็กใส่ของเล่น ครูควรชักชวนเด็กให้เล่นมากกว่าการบังคับ ฝึกให้เด็กแสดงความคิดหรือชวนกันคิด ดึงดูดการเก็บของเล่นให้สนุกด้วยการช่วยกันเก็บ
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2558
-ปริมาณอาหารมากเกินไป
-เด็กไม่ชอบรับประทานสิ่งนั้น เช่น ผัก ไม่ควรบังคับ แต่ควรดัดแปลงอาหารนั้นในรูปแบบต่างๆแล้วชักชวนให้เด็กลองรับประทาน
-เด็กขาดความอยากรับประทานอาหารเนื่องจากรับประทานขนมหรือนมระหว่างมื้อแล้ว
-เด็ก มีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร เช่น ถูกบังคับป้อนจนเจ็บปาก หรือบรรยากาศที่ไม่ดีในการรับประทานอาหาร เช่น ถูกดุหรือถูกตี เป็นต้น
-ขณะที่รับประทานอาหารเด็กมีความเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือมีปัญหาทางอารมณ์
แก้ไขสาเหตุที่เกิดจากพ่อแม่หรือคนเลี้ยงดู
-ลด ความกังวลใจลงบ้างเกี่ยวกับการรับประทานอาหารของเด็ก เช่น กังวลว่าเด็กจะมีน้ำหนักตัวน้อยหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เพราะความกังวลนั้นส่งต่อไปให้เด็กได้ทำให้มีผลต่อการไม่รับประทานอาหารได้
-ให้ เด็กได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเองเกี่ยวกับการรับประทานอาหารบ้าง เช่น ในเด็กที่เริ่มหยิบอาหารชิ้นเล็กลงหรือเอาช้อนใส่ปากได้ จะหกเลอะเทอะบ้างก็ไม่เป็นไร
ปัญหาเด็กกินอาหารยากเป็นปัญหาที่พบบ่อย ดังนั้นการดูแลและป้องกันปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้เด็กดีขึ้นได้ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ เช่น ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวและปัญหาด้านจิตใจ เป็นต้น เช่น เก็บกด ขี้กังวล
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันที่ 18 มิถุนายน 2558
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558
บันทึกสะท้อนคิดของนางสาวรจนา แฟนพิมาย วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2558
พฤติกรรมทางกายหรือวาจาที่ก้าวร้าว ข่มขู่คนอื่น โอ้อวด โดยมักบอกว่าผู้อื่นจะมาเอาเปรียบ หรือข่มเหงตนจึงต้องโต้เถียง ต่อต้าน มักแสดงความคิดเห็นดูถูกคนอื่นหรือสิ่งที่สังคมนิยม มักพบร่วมกับปัญหาการเรียน
อาจไม่แสดงพฤติกรรมระหว่างอยู่ในห้องเรียนเหล่านี้ให้ครูเห็น บางครั้งเด็กจะรวมกลุ่มกันแกล้งเพื่อ หรือแกล้งคนเดียว หรือชกต่อยต่อสู้ พบว่าผู้ปกครองหลายคนก็สนับสนุนให้เด็กใช้กำลังกับผู้อื่นด้วย
สาเหตุ
1. ต้องการความสนใจจากเพื่อนและผู้ใหญ่
2. อยากรู้สึกว่ามีอำนาจ โดยการแสดงพลังจากการที่คุมคนอื่นได้
3.เป็นการเรียนรู้จากครอบครัวหรือที่อื่นว่า การจะอยู่ในกลุ่ม จะต้องเหนือกว่า คนอื่นเท่านั้น
4.บางรายเด็กกลัวว่าคนอื่นจะทำตนก่อน จึงต้องรีบชิงแสดงออกก่อน
ผลเสียของพฤติกรรม
1. ทำให้เพื่อนหรือทั้งห้องเรียนอยู่ในความ กลัว
2. คนรอบข้างต้องงดใช้สิทธิส่วนตัวหลายอย่าง
3.ทำให้บรรยากาศห้องเรียนตึงเครียด พร้อมจะเกิดความรุนแรง เนื่องจากเด็กคนอื่นอาจมีความรู้สึกอยากแสดงออกกลับคืนบ้าง เพราะคนที่มีพฤติกรรมคนนี้หรือกลุ่มนี้มีอำนาจและได้ความสนใจ เด็กบางคนที่อ่อนแออาจไม่อยากมาโรงเรียน
4. ครูรู้สึกว่าตนเองไม่มีอำนาจจะจัดการเด็กได้ เนื่องจากเด็กอาจแข็งแรงกว่าครูแล้ว
การแก้ไขและช่วยเหลือง
1. ใช้วิธี “ล่วงเวลา” กับเด็กที่ชอบขู่คนอื่น โดยการกักให้อยู่เย็นหลังเลิกเรียน ครูเองก็จะมีเวลาคิดว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป บอกให้เด็กทราบผลเสียที่อาจจะตามมา แต่อย่าบอกบทลงโทษทั้งหมด
2. อย่าสรุปว่าเด็กที่ชอบรังแกคนอื่นจะ แกร่ง หลายครั้งที่พบว่าเด็กมีจิตใจอ่อนแอมากแต่ทำเป็นแข็งแกร่งเพื่อเป็นการชดเชย
3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีแบบส่วนตัวกับเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งเด็กมักไม่เคยได้รับมาก่อน
4. แสดงความอ่อนโยนแทนที่จะแสดงความโหดร้าย เด็กพวกนี้มักโต้ตอบกับคนก้าวร้าว เป็น แต่ไม่รู้จะสู้กับความอ่อนโยนอย่างไร อย่าแสดงความโหดร้าย เป็นตัวอย่างในการแก้ปัญหากับเขา
5. ช่วยเด็กออกจากวงจรร้าย ที่เด็กพวกนี้อาจถูกท้าทายจากจากสิ่งรอบตัวอยู่เรื่อยๆ ด้วยการสอนให้เด็กเหล่านี้รับมือกับคำท้าว่า “ครูไม่อนุญาตให้ฉันสู้”
6. สร้างบทบาทใหม่ให้เด็กเกเรเป็นเด็กที่มีประโยชน์กับส่วนรวม